ทางด้านตัวผู้เล่นนั้นผู้จัดการทีมวัยหนุ่ม”ยูเลี่ยน นาเกลมันส์”ของเสือใต้  ”บาเยิร์น มิวนิค” ไม่ได้ประมาททีมรองเจ้าบ้านแต่อย่างใดส่งชุดใหญ่ลงมาลุยเหมือนเดิม มี”โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้”ลงมายืนเป็นหน้าเป้าให้”เลรอย ซาเน่”ลากเลื้อยฝั่งซ้ายส่วนฝั่งขวาเป็นหน้าที่”โทมัส มุลเลอร์”และพัก”แชร์ กนาร์บี้”เป็นแค่ตัวสำรองส่วนตำแหน่งอื่นก็ล้วนแล้วแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี

       เริ่มเกมส์ในครึ่งแรกเป็นทางด้านผู้ไปเยือนที่ทำได้ดีกว่าทางเจ้าบ้านสามารถยิงประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากฝีเท้าของ”โทมัส มุลเลอร์”ในนาทีที่ 10 และมาถึงนาทีที่ 31 ก็เป็นทาง”เลรอย ซาเน่”ที่จ่ายให้กัปตันทีม”โจซัว คิมมิซ”ยิงประตูที่ 2 ให้บาเยิร์น มิวนิคนำ”กรอยเธอร์ เฟือธ”ออกไปเป็น 2-0 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกกันไปด้วยสกอร์นี้

        ส่วนเกมส์ในครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ 2 นาที “เบนจามอน วาปาร์”กองหลังตัวทีมชาติฝรั่งเศสของทีมเสือใต้ก็มาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนจึงต้องเล่นกันแค่ 10 คน แต่ก็ยังสามารถทำประตูหนีเจ้าบ้านออกไปได้อีกจากการที่”เซบาสเตีย กรีซเบค”ทำพลาดเข้าประตูตัวเองในนาทีที่68 ส่งผลให้เสือใต้นำห่างเป็น 3-0 และก่อนหมดเวลา 2 นาทีเจ้าบ้านก็มาได้ประตูตีไข่แตกจากฝีเท้าของ”เซดริค อิสเทน”ตัวสำรองเมื่อหมดเวลาการแข่งขันจึงเป็นอันว่าบาเยิร์น มิวนิคบุกมาเอาชนะ”กรอยเธอร์ เฟือธ”ไปได้ 3-1

        และอันดับในตารางคะแนนบุนเดสลีก้าเวลานี้ทีมเสือใต้ยังคงเป็นผู้นำต่อไปจากการลงเตะ 6 นัด มี 16 คะแนนด้วยผลงานชนะ 5 เสมอ 1 ยิงไป 23 เสีย 5 ส่วนผู้แพ้ในนัดนี้นั้นก็ยังคงต้องจมปลักอยู่ในตำแหน่งล่างสุดของตารางต่อไปด้วยการลงเตะ 6 นัดยังไม่เคยชนะใครได้เลย เสมอ 1 แพ้ถึง 5 มีแค่เพียง 1 แต้มเท่านั้น

      ส่วนโปรแกรมนัดถัดไปของบาเยิร์น มิวนิคในบุนเดสลีก้านั้นคือการเปิดบ้านต้อนรับอีกหนึ่งทีมท้ายตาราง”ไอร์ทรัต แฟรงเฟิร์ต”ในวันที่ 3 ตุลาคมที่จะถึงนี้ซึ่งคาดว่าพวกเขาคงไม่น่าพลาดกับการคว้าชัยพร้อมเก็บสามคะแนนเพิ่มอย่างแน่นอน